่ เรื่องที่๑๒ ทิป
วัฒนธรรมและธรรมเนียมของแต่ละประเทศต่างกัน
วัฒนธรรมและธรรมเนียมของประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นบางทีก็ไม่เหมือนกัน
วันนี้ผมอยากเขียนเรื่องเกี่ยวกับทิป
ผมคิดว่าระบบการให้ทิปมาจากอเมริกา
ในประเทศอเมริกาเวลาทานข้าวที่ร้านอาหาร
ลูกค้าจะวางทิปไว้บนโต๊ะโดยลูกค้าจะพิจารณาถึงการบริการของพนักงาน
เช่น
ถ้าบริการไม่ค่อยดีอาจจะไม่วางทิปไว้ให้ก็มี
ที่อเมริกาเรื่องทิปเป็นเรื่องธรรมดา
เท่าที่ผมรู้สังคมอเมริกา
เงินเดือนของเด็กเสิร์ฟน้อยก่วาเงินเดือนอาชีพอื่น
ดังนั้นอาชีพเด็กเสิร์ฟจึงต้องมีรายได้พิเศษจากเงินทิป
เจ้าของจึงมีความคิดว่าไม่จําเป็นต้องขึ้นเงินเดือนของเด็กเสิร์ฟ
เด็กเสิร์ฟแต่ละคนอาจจะมีรายได้พิเศษ(เงินทิป)ไม่เท่ากัน
ก็แล้วแต่ความตั้งใจในการบริการของตนเอง
ซึ่งเด็กเสิร์ฟอาจจะบริการดีขึ้นก็จะทําให้ร้านได้รับประโยชน์ไปด้วย
เพราะถ้าลูกค้าชอบการบริการบริษัทก็จะมาบ่อยมากขึ้น
ในประเทศญี่ปุ่นผมคิดว่าไม่มีระบบทิป
ตอนที่ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นผมไม่เคยให้ทิป
ความจริงในโรงแรมที่มีดาวมีค่าบริการ
แต่ค่าบริการนี้ทุกโรงแรมจะบวกเพิ่มอีก ๑๐ เปร์เซนต์เหมือน ๆ กัน
ถ้าทานข้าวในโรงแรมราคา
๑๐๐ บาทลูกค้าต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มอีก ๑๐ เปร์เซนต และต้องจ่ายภาษีอีก ๕
เปร์เซนต์ด้วย
ค่าบริการนี้ไม่เกี่ยวกับการบริการของเด็กเสร์ฟไม่ว่าดีหรือไม่ค่อยดีเท่าไร
นอกจากโรงแรมที่มีดาว
ผมเคยจ่ายเงินพิเศษเป็นค่าบริการในช่วงกลางคืน คือ บางร้านมีบริการ ๒๔ ชั่งโมง
ตั้งแต่
๔ ทุ่มถึงตี ๔ ลูกค้าต้องจ่ายเงินพิเศษเพิ่มอีก ๑๐ เปร์เซนต์
ทั้งค่าบริการและค่าช่วงเวลาดึกจะเขียนรายละเอียดในใบเสร็จด้วย
เท่าที่ผมจําไว้ผมไม่เคยจ่ายทิปในประเทศญี่ปุ่น
คิดว่าคนญี่ปุ่นคนอื่นก็เหมือนกัน แต่คนญี่ปุ่นส่วนมากรู้ว่าต่างประเทศมีระบบทิป
หนังสือท่องเที่ยวบางเล่มอธิบายและเขียนเรื่องทิป
เพราะว่าคนญี่ปุ่นไม่รู้ว่าต้องจ่ายประมาณเท่าไรดีแล้วร้านแบบไหนจ่ายดีก่วาหรือไม่ต้องจ่าย
ลูกค้า
คือ คนที่จ่ายเงิน แต่เวลาไปต่างประเทศคนญี่ปุ่นกลุ้มใจและงงเกี่ยวกับทิปบ่อย ๆ
เพราะว่าที่ญี่ปุ่นสินค้าและบริการทุกอย่างมีราคากําหนดแม้แต่นวดพิเศษ
ส่วนประเทศไทย
เท่าที่ผมรู้เวลาทานข้าวที่ร้านอาหารหรือภัตตาคารคนไทยบางคนวางทิปไว้ในสมุดแฟ้มใบเสร็จ
แต่ผมถามอาจารย์ที่สอนวัฒนะรรมไทยว่าในประเทศไทยมีระบบทิปไหม
อาจารย์ตอบว่าไม่มีนะครับ
ผมคิดว่าแบบนี้ทําตามแบบจากอเมริกาเท่านั้น
บางคนไม่รู้ว่าทิป คือ การตอบแทนและขอบคุณสําหรับบริการที่ดี
บางทีผมไปนวดที่ร้านนวด
หลังนวด ๒ ชั่งโมงแล้วผมจ่ายเงินตามราคากําหนด
พนักงานบางคนบอกว่า
g ทิปล่ะ h หรือ g ขอทิป ๑๐๐ บาท h ผมอารมณ์เสียด้วย
g ค่านวด
๒ ชั่งโมง ๔๐๐ บาท ทําไมต้องทิปอีก ๑๐๐ บาท h g ทิปขึ้นอยู่กับการบริการใช่ไหม
วันนี้บริการดีหรือเปล่า h
อยากบอกแบบนี้
ถ้าผมจะจ่ายทิปผมก็อยากคิดเองว่าจ่ายหรือไม่จ่ายหรือให้ใคร
ให้เท่าไร
แต่พนักงานเรียกร้องก่อน
ทําให้ผมไม่อยากจ่ายเลย
ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นนานมากๆ
ทําให้ผมชินกับสังคมที่ไม่มีทิป
เพราะฉะนั้นผมไม่อยากคิดเรื่องทิปจริงๆ
๔ ตุลาคม ๒๕๔๖
เทซึ